-

วันศุกร์ที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2552

Up ปู่ซ่าบ้าพลัง





















ชื่ออังกฤษ
Up
ชื่อไทย ปู่ซ่าบ้าพลัง
ประเภทหนัง Animation
ผู้กำกับ Bob Peterson
ผู้แต่ง -
วันที่เข้าฉาย 11 June 2009
ความยาวหนัง 104 min.
นักแสดง

เอ๊ด เอสเนอร์, คริสโตเฟอร์ พลัมเมอร์, จอห์น แรทเซนเบอร์เกอร์, เดลรอย ลินโด, จอร์แดน นากาอิ
เรทภาพยนตร์ G (general audiences)
สถานที่ถ่ายทำ -
ภาษา -
เว็บไซต์ http://disney.go.com/disneypictures/up/
UP ปู่ซ่าบ้าพลัง : การ์ตูน 3 มิติเรื่องแรกของพิกซ่าร์

คอหนังการ์ตูนทั้งหลายคงทราบดีอยู่แล้วว่า ผลงานจากค่ายพิกซ่าร์ นั้นสุดยอดขนาดไหน ลำพังแค่หนังการ์ตูนแบบปกติของพิกซ่าร์ ก็มีภาษีดีกว่าการ์ตูน 2 มิติของชาวบ้านเขาอยู่แล้ว และถ้าเกิด UP ปู่ซ่าบ้าพลัง แอนิเมชั่นเรื่องที่ 10 ของพิกซ่าร์ ถูกสร้างเป็นหนัง 3 มิติด้วยล่ะ ไม่อยากคิดเลยว่ามันจะ วิจิตรตระการตา มันส์ ทะลุจอ แค่ไหน สรุปง่ายๆ ว่า นี่คือหนังแอนิเมชั่นแห่งปีที่ทุกคนไม่ควรพลาด!

เมื่อคุณปู่ออกตามล่าความฝัน
UP เล่าเรื่องของ คาร์ล เฟรดริกเซน (ให้เสียงพากย์โดย เอ็ดเวิร์ด แอสเนอร์) คุณปู่พ่อค้าขายลูกโป่งวัย 78 ปี ที่ต้องการออกตามหาฝันของภรรยาผู้ล่วงลับ นั่นก็คือการไปท่องดินแดนอเมริกาใต้สักครั้ง และแล้ววันหนึ่ง คุณปู่ขี้โมโหคนนี้ก็ทำให้เพื่อนบ้านแตกตื่นเป็นทิวแถว เมื่อตัดสินใจผูกลูกโป่งเป็นหมื่นๆ ใบไว้กับบ้านของเขาเพื่อใช้เป็นยานพาหนะบินขึ้นฟ้าออกเดินทางสู่ดินแดนลึกลับที่โลกลืม แต่ คาร์ล ไม่ได้เดินทางเพียงลำพังอย่างที่ตั้งใจเอาไว้ เพราะยังมี รัสเซล (ให้เสียงพากย์โดย จอร์แดน นางาอิ) ลูกเสือเจ้าปัญหาวัย 9 ขวบ หลงมาเกาะระเบียงหน้าบ้านของคุณปู่ คาร์ล ขณะที่บ้านลอยขึ้นฟ้ามาด้วย ความสนุกสนาน และมิตรภาพต่างวัยอันน่าประทับใจจึงเริ่มต้นขึ้น

แรงบันดาลใจจากสถานที่จริง
UP เป็นผลงานการกำกับของ พีท ด็อกเตอร์ ซึ่งเคยฝากฝีมือไว้ใน Monster Inc. ร่วมด้วยทีมผู้สร้างมือทองจาก Finding Nemo, Ratatouille และ Wall-E โดยหลายๆ ฉากที่เราได้เห็นหนังนั้น เป็นฉากที่ได้แรงบันดาลใจมาจากสถานที่จริง ซึ่งทีมงานพิกซ่าร์กว่า 10 ชีวิต ได้บุกป่าฝ่าดงเข้าไปถึง ยอดเขาสูง “เทพุซ” ซึ่งเป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวทั่วๆ ไปเข้าถึงได้ยากมาก โดยเชื่อกันว่าที่แห่งนี้คือที่ตั้งของสถานที่ลึกลับในจินตนาการที่อยู่บริเวณจุดเชื่อมของ 3 ประเทศคือ เวเนซูเอล่า, บราซิล และ กายอานา โดยการเดินทางอันแสนทรหดนี้กินเวลานานกว่า 3 วัน ซึ่งทีมงานต้องอาศัยทั้งรถจี๊ป, เครื่องบิน และเฮลิคอปเตอร์ เป็นพาหนะไปสู่จุดหมาย แต่ก็ต้องถือว่าคุ้มค่า เพราะพวกเขาได้เดินทางไปถึงน้ำตกแองเจิล น้ำตกที่สูงที่สุดในโลกซึ่งอยู่ในเวเนซูเอล่า และน้ำตกแห่งนี้ก็เป็นแรงบันดาลใจให้พวกเขาสรรค์สร้างน้ำตกพาราไดส์ ในหนังเรื่องนี้ขึ้นมา

แอนิเมชั่นเรื่องแรกที่ได้ฉายเปิดเทศกาลหนังเมืองคานส์
ตั้งแต่มีการจัดงานมาถึง 62 ปี UP คือหนังแอนิเมชั่น 3 มิติเรื่องแรกที่ได้รับเลือกให้ไปฉายเปิดในงานเทศกาลหนังเมืองคานส์ ซึ่งได้ข่าวมาว่า Up สร้างความประทับใจให้กับผู้ชมแบบสุดๆ ถึงขนาดมีคนยืนลุกขึ้นปรบมือให้นานกว่า 10 นาทีหลังจากหนังจบเลยทีเดียว!

เสียงชื่นชมท่วมท้นจากนักวิจารณ์
UP ได้คะแนนเฉลี่ยจากเว็บไซต์รวมบทวิจารณ์ชื่อดังอย่าง Metacritic.com สูงถึง 88/100 โดยนักวิจารณ์จากสื่อชั้นนำของอเมริกาอย่าง The Hollywood Reporter, Variety, Entertainment Weekly, Rolling Stone, New York Post พากันเทคะแนนเต็มให้ กับหนังการ์ตูนเรื่องนี้แบบไม่ได้นัดหมาย ซึ่งนักวิจารณ์ส่วนใหญ่พูดเป็นเสียงเดียวกันในทำนองว่า นอกเหนือจากเทคโนโลยี 3 มิติกับความคิดสร้างสรรค์อันไร้ขีดจำกัดของทีมงานพิกซาร์ แล้ว UP คือหนังการ์ตูนที่จะทำให้คนดูต้องหัวเราะ ซาบซึ้ง และเสียน้ำตาให้กับมิตรภาพอันแสนประทับใจของคู่หูต่างวัยอย่างคุณปู่ คาร์ล และลูกเสือนักสำรวจตัวน้อย รัสเซล ซึ่งนี่ถือเป็นบทพิสูจน์ให้เห็นอีกครั้งว่าแอนิเมชั่นของพิกซาร์ ไม่ใช่การ์ตูนสำหรับเด็กอย่างเดียว แต่สามารถดูได้ทุกเพศทุกวัย

ว่าที่หนังทำรายได้สูงสุดของพิกซ่าร์
UP เปิดตัวอันดับ 1 ในบ๊อกซ์ออฟฟิศของอเมริกาตามคาด (ไม่น้อยหน้าผลงานก่อนหน้านี้ทั้ง 9 เรื่องของพิกซ่าร์ที่เปิดตัวอันดับ 1 ในอเมริกาเช่นกัน) รวมถึงเป็นหนัง 3 มิติเรื่องแรกที่ทำรายได้เปิดตัวสูงสุดในประวัติศาสตร์ภาพยนตร์ อีกด้วย โดยรายได้เปิดตัวสามวันแรกอยู่ที่ $68.2 ล้าน ซึ่งถือเป็นรายได้เปิดตัวสูงสุดอันดับที่ 3 ของหนังจากค่ายพิกซาร์ รองจาก The Incredible และ Finding Nemo ล่าสุดหลังจากฉายในอเมริกามา 2 สัปดาห์ UP กวาดรายได้ไปแล้วกว่า $141 ล้าน ซึ่งเป็นตัวเลขที่มากกว่าหนังฟอร์มยักษ์ที่เข้าฉายก่อนอย่าง Angels & Demons, Night at the Museum 2 และ Terminator Salvation เสียอีก
เมื่อพิจารณาจากระยะเวลาการฉายที่เหลือ รวมถึงการที่มีการฉายในระบบ 3 มิติด้วย UP อาจจะกลายเป็นแอนิเมชั่นที่ทำรายได้สูงสุดของพิกซาร์แซงหน้า Finding Nemo ที่เคยทำไว้กว่า $340 ล้าน (ส่วนรายได้รวมทั่วโลกอยู่ที่ประมาณ $864 ล้าน) ก็เป็นได้!

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หนังใหม่ หนังน่าดู